Digital Strategy คืออะไร ? ต่างจาก กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ยังไง

กลยุทธ์การตลาด หรือ Digital Strategy คืออะไร

เลือกอ่านตามหัวข้อ

กลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) เป็นหัวใจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายทางการตลาด เปรียบเสมือนแผนที่นำทางธุรกิจให้ไปถึงจุดหมายที่ต้องการ และ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการเลือกวิธีการ หรือการวางแผนกลยุทธ์ที่ทำให้บรรลุเป้าหมายนั้น ตัวอย่างกลยุทธ์การตลาด เช่น กลยุทธ์การตลาดดิจิทัล (Digital Strategy)

หากอยากรู้ กลยุทธ์การตลาด คืออะไร ? แตกต่างจาก กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ยังไง ? และมี กลยุทธ์การตลาดอะไรบ้าง ที่สามารถนำไปใช้กับธุรกิจได้

บทความนี้จะบอก กลยุทธ์การตลาด มีอะไรบ้าง ที่ทำให้บรรลุเป้าหมายได้ เราได้รวบรวม กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ทั้งหมดไว้ในที่นี้ที่เดียว

Digital Strategy

Digital Strategy คืออะไร

กลยุทธ์การตลาดดิจิทัล (Digital Strategy) คือ การใช้เทคโนโยลีต่าง ๆ เพื่อทำให้องค์กรบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ อย่างการมียอดขายที่สูงขึ้น หรือแบรนด์ที่รู้จัก

โดยบางครั้ง Digital Strategy ถูกใช้ในความหมายเดียวกับ Marketing Marketing Strategy หรือ กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ อันหมายถึงการใช้ทรัพยากรในโลกออนไลน์ อย่างเว็บไซต์ อีเมล และโซเชียลมีเดีย เพื่อทำให้ผู้บริโภครับรู้ สนใจ และตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการในท้ายที่สุด

ในทางเทคนิค การกำหนด กลยุทธ์ทางการตลาด เปรียบเสมือนขั้นตอนแรกของการทำธุรกิจ ก่อนเริ่มต้นขั้นตอนอื่น ๆ อย่างการจัดสรรงบประมาณ เลือกช่องทางทำการตลาด หรือเลือกวิธีสื่อสารกับผู้บริโภค

กลยุทธ์การตลาด มีประโยชน์อย่างไร

การวาง กลยุทธ์การตลาด ส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณได้ ดังนี้

  • ช่วยให้การทำการตลาดมีทิศทางที่ชัดเจน หวังผลลัพธ์ได้ และไม่ทำให้ผู้บริโภคสับสน
  • ช่วยให้ธุรกิจได้ทบทวนถึงลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงตลาดที่กำลังจะกระโจนเข้าไป
  • ช่วยให้งบประมาณ เวลา และแรงงาน ถูกใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด

กลยุทธ์การตลาดดิจิทัล ที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง

การทำการตลาดออนไลน์ และการวาง กลยุทธ์การตลาด ช่วยให้แบรนด์ สินค้าและบริการของคุณ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่าคู่แข่ง และยังอาจช่วยให้มียอดขายมากกว่าเดิมด้วย

ยิ่งกว่านั้น การทำการตลาดออนไลน์ ยังติดตามข้อมูลและผลลัพธ์ต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ ผ่านเครื่องมือหรือแอปต่าง ๆ ทำให้ทราบได้ว่ากลยุทธ์ที่ใช้ประสบความสำเร็จตามที่คิดไว้หรือไม่ จำเป็นต้องปรับปรุงอย่างไรบ้างเพื่อให้เอาชนะคู่แข่งได้

และถ้าอยากรู้ว่า กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง ตัวอย่างกลยุทธ์ช่องทางออนไลน์ที่สามารถทำได้ คำตอบตามข้างล่างนี้เลย

กลยุทธ์การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย

1. กลยุทธ์การตลาดโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing)

กลยุทธ์การตลาด ผ่านโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing) คือ การทำการตลาดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง  ๆ อย่าง Facebook, Twitter, LINE, TikTok และ Instagram ผ่านการสร้างคอนเทนต์ การพูดคุยปฏิสัมพันธ์

รวมถึง กลยุทธ์ทางการตลาดการทำโฆษณาสุดคุ้มค่า อย่าง Performance Marketing ที่จ่ายเงินค่าโฆษณา ตามผลลัพธ์ที่คุณได้ประโยชน์จริงๆ เน้นวัดผลได้ เช่น ได้ลูกค้า (Lead) ,อัตราการซื้อ (Conversion), ยอดขาย

สำหรับจุดเด่นของการทำการตลาดออนไลน์แบบนี้ คือ ทำให้คอนเทนต์ที่ต้องการนำเสนอ เข้าถึงผู้คนจำนวนมากได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำ

นอกจากนี้ เมื่อทำการตลาดทางโซเชียลมีเดีย ผู้ทำการตลาดยังสามารถกำหนดได้ว่าจะเผยแพร่คอนเทนต์หรือโฆษณากับใคร กี่คน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งการทำตลาดกับคนหมู่มาก (Mass Marketing) และผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม (Niche Marketing)

2. กลยุทธ์การตลาดวิดีโอ (Video Marketing)

ปัจจุบัน วิดีโอได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิดีโอสั้น ตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่าง Reels ของ Facebook, Instagram และคลิป Youtube, TikTok

จุดเด่นของการตลาดทางวิดีโอ คือ เสพง่าย ให้ความบันเทิงทั้งภาพและเสียง ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจสารที่ต้องการสื่อได้ไม่ยาก

ยิ่งกว่านั้น สื่อประเภทวิดีโอยังมีช่องทางเผยแพร่ที่หลากหลาย และบางครั้งไม่ต้องใช้โปรดักชันระดับโปร เพื่อสร้าง Awareness ให้กับแบรนด์ สินค้าและบริการ

ยังไงก็ตาม การตลาดออนไลน์ผ่านวิดีโอ ไม่ใช่เพียงการ ยิงแอดโฆษณา เพื่อนำเสนอสินค้า-บริการ แต่ยังรวมถึงทำคอนเทนต์ที่ให้ความรู้ ความบันเทิง ตอบโจทย์ Pain Point ของกลุ่มเป้าหมายด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถอ่านได้จาก กลยุทธ์การตลาดผ่านคอนเทนต์ (Content Marketing)

ที่สำคัญการทำ กลยุทธ์การตลาด ผ่านวิดีโอ ซึ่งมีประสิทธิภาพ ยังช่วยเสริมคุณค่าและภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วย

กลยุทธ์การตลาด ผ่านการเขียนบทความ

3. ผ่านการเขียนบทความ (Blogging)

ในปัจจุบัน ผู้บริโภคมักหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ

และเพื่อให้พวกเขาได้รู้จักสินค้าและบริการของคุณเป็นยังไง? น่าซื้อมั้ย? ตอบโจทย์รึเปล่า? คุณควรใช้ กลยุทธ์การตลาด ผ่านการเขียนบทความ (Blog) เป็นการ ทำคอนเทนต์ เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภค ผ่านเว็บไซต์ในประเด็นเหล่านั้น เช่น ถ้าคุณจะขายเก้าอี้ออฟฟิศเพื่อสุขภาพ เนื้อหาของบทความก็ควรเป็นประมาณนี้

  • ออฟฟิศซินโดรม คืออะไร ใครเสี่ยง ป้องกันยังไง
  • 10 วิธีรับมือกับอาการปวดหลัง
  • เก้าอี้เพื่อสุขภาพ เลือกยังไง แบบไหนคุ้มแบบไหนโดน

จุดเด่นของกลยุทธ์การตลาดแบบนี้ คือต้นทุนต่ำ และที่แบรนด์ต้องใช้มีเพียงคอนเทนต์ เว็บไซต์ และโซเชียลมีเดียเท่านั้น

นอกจากนั้น การทำตลาดออนไลน์ผ่านบทความ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำ SEO แถมยังเหมาะกับการทำธุรกิจแบบ B2B และ Niche Marketing

กลยุทธ์การตลาด SEO

4. กลยุทธ์การตลาด SEO (SEO Marketing)

กลยุทธ์การตลาด SEO หรือ การทำการตลาดผ่าน Seach Engine เป็นกลยุทธ์การตลาด ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะเมื่อเลือกทำการตลาดออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ เพราะผู้คนจะพบบทความทางเว็บไซต์หรือเพจได้ง่ายขึ้นด้วย วิธีการทำ SEO

สำหรับจุดเด่นของกลยุทธ์การตลาดแบบนี้ คือช่วยเพิ่มยอดเข้าชมเว็บไซต์ และแน่นอนว่าพอมีคนเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น ก็มีโอกาสที่แบรนด์จะเป็นที่รู้จักมากขึ้น และมียอดขายสินค้าและบริการผ่านเว็บที่มากขึ้นตามไปด้วย

กลยุทธ์การตลาด Influencer

5. กลยุทธ์การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Marketing)

กลยุทธ์การตลาดร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Marketing) คือ เป็นการจ้าง อินฟลูเอนเซอร์ ให้พูดถึงแบรนด์ สินค้า หรือบริการ กับผู้ติดตามของพวกเขา

กลยุทธ์การตลาดแบบนี้ ใช้หลักจิตวิทยาที่ว่า “คนจะเชื่อคนที่เขาเชื่อถือ” ทำให้ผู้ที่เชื่อในตัว Influencer มีแนวโน้มที่จะเชื่อสิ่งที่เขา/เธอบอกให้ใช้

ปัจจุบัน Influencer Marketing มักทำผ่านโซเชียลมีเดีย ผ่านคอนเทนต์ของพวกอินฟลูเอนเซอร์

จุดเด่นของการใช้ Influencer Marketing คือช่วยให้แบรนด์/ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและเป็นจำนวนมาก ช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์

นอกจากนี้ การจ้าง Influencer ยังช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายจากกลุ่มลูกค้าดั้งเดิมด้วย

กลยุทธ์การตลาด แบบ Inbound Marketing

6. การดึงดูดลีด (Lead Magnet)

การเปลี่ยนผู้บริโภคให้กลายเป็นลูกค้า หรือ การทำ Lead Magnet คือ กลยุทธ์การใช้ Content ดึงให้คนสนใจ และแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างอีเมลและเบอร์โทรศัพท์กับกลุ่มเป้าหมาย ผู้ติดตาม คนที่เยี่ยมชมเว็บไซต์หรือเพจ เพื่อที่ธุรกิจจะได้มีข้อมูลและช่องทางในการติดต่อเพื่อทำการตลาดกับพวกเขาต่อไป

Lead Magnet เหมาะสำหรับการทำ Email Marketing และ Customer Relationship Management (CRM) รวมถึงธุรกิจที่ต้องอาศัยเวลาในการฟูมฟักความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ผ่านการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ รวมถึงการให้ทดลองใช้สินค้าก่อน

7. กลยุทธ์การตลาดผ่านการยิงแอดโฆษณา (Social Media Advertising)

กลยุทธ์การตลาด ผ่านการยิงแอดโฆษณา โดยเฉพาะ การยิงแอด Facebook เป็นอีกกลยุทธ์การตลาด ที่แบรนด์ไม่ควรมองข้าม เพราะให้ผลลัพธ์รวดเร็ว ใช้งบประมาณเริ่มต้นไม่มากนัก และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบเจาะจง โดยกำหนดจากพฤติกรรม ความสนใจ ที่อยู่อาศัย และข้อมูลเชิงประชากรศาสตร์

นอกจากนี้ กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ แบบนี้ ยังทำได้ผ่านสื่อหลาย ๆ แบบ เช่น ภาพกราฟิก ภาพถ่าย วีดีโอ โพสต์ หรือช่องทางต่างๆ บนโซเชียลมีเดีย

กลยุทธ์การตลาด Affiliate marketing

8. กลยุทธ์การตลาดแบบใช้นายหน้า (Affiliate Marketing)

กลยุทธ์การตลาด แบบตัวแทน นายหน้า (Affiliate Marketing) คือ การทำการตลาดที่ให้บุคคลที่สาม ช่วยโปรโมทสินค้า-บริการจากแบรนด์ ผ่านลิงก์สินค้า (Affiliate Link) โดยที่คนที่ช่วยบอกต่อจะเป็นใครก็ได้ และคนที่จะบอกต่อจะได้ส่วนแบ่งตามจำนวนที่ตกลงกับแบรนด์ไว้

กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ แบบนี้ จะช่วยให้สินค้า/บริการเข้าถึงกลุ่มคนได้กว้างขวางขึ้น โดยใช้งบประมาณไม่มากนัก เมื่อเทียบกับการใช้งบประมาณทำการตลาดรูปแบบอื่น

จุดเด่นของการทำ Affiliate Marketing คือ สามารถทำผ่านคนที่เชื่อถือในแบรนด์อยู่แล้ว รวมถึงเหล่า Influencer เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้

e-mail marketing

9. กลยุทธ์การตลาดผ่านอีเมล (Email Marketing)

การทำการตลาดผ่านอีเมล (Email Marketing) เป็นอีกช่องทางที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะธุรกิจประเภท High-Involvement เช่น ธุรกิจการเงินการธนาคาร, ธุรกิจ B2B, ธุรกิจให้บริการด้านกฎหมาย

จุดเด่นของการทำ Email Marketing คือสามารถปรับปรุงวิธีทำการตลาดให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย (Personalized Marketing) ได้ เห็นผลลัพธ์ของการทำการตลาดได้ชัดเจน สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ และมี Conversion Rate ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับการทำการตลาดในช่องทางอื่น ๆ

10. การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM)

การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) คือ การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าให้เขาอยู่กับแบรนด์นานที่สุด โดยการทำ CRM ในปัจจุบัน จะทำผ่านซอฟต์แวร์ CRM เช่น HubSpot, ActiveCampaign, Zendesk รวมถึง Email Marketing Software ต่าง ๆ

รูปแบบการทำงานของ CRM จะเชื่อมต่อกับ MarTech หรือเครื่องมือการตลาดต่าง ๆ เพื่อนำข้อมูลด้านพฤติกรรมของลูกค้ามาวิเคราะห์และนำเสนอเป็นรายงาน ทำให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้าและขายสิ่งที่ลูกค้าแต่ละคนต้องการได้

ข้อดีของ กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ แบบนี้ คือช่วยลดค่าใช้จ่ายในการหาลูกค้าใหม่ เป็นการรักษาลูกค้าเก่าให้อยู่กับแบรนด์ต่อ เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า และส่งเสริมประสบการณ์ลูกค้าไปพร้อม ๆ กันด้วย

กลยุทธ์การการตลาดออนไลน์

กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ เป็นหนึ่งในอาวุธที่ทรงพลังที่สุดในการทำธุรกิจ เพราะช่วยสร้างความสำเร็จตามเป้าที่แบรนด์กำหนดไว้ โดย กลยุทธ์การตลาด ที่แต่ละธุรกิจเลือกใช้นั้น จะขึ้นอยู่กับเป้าหมาย ช่องทางเข้าถึงลูกค้า งบประมาณ รวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือที่สามารถใช้ได้

และถ้าคุณอยากทำการตลาด แต่ขาดความพร้อมเรื่องความเชี่ยวชาญและทีมงาน คุณสามารถจ้าง THE TEPCO ได้ โดยเราเป็น เอเจนซี่ รับทำการตลาดออนไลน์ แบบครบวงจร รวมถึงรับวางแผนการตลาดด้วย และ รับทำ SEO ด้วย

บทความอื่น ๆ
DA ย่อมาจาก Domain Authority เป็น ตัวเลขที่บอกว่าเว็บเรามี ค่าความน่าเชื่อถือของโดเมน มากน้อยแค่ไหน
Ahrefs โปรแกรมทำ SEO สุดฮิต มี AI เขียนบทความ SEO ได้ด้วย
รู้รึเปล่า? การกิน ป๊อปคอร์น ทำให้เราจำชื่อแบรนด์ใหม่ ๆ ได้ยากขึ้น
การตลาดออนไลน์ Digital marketing Thetepco

หากสนใจ
บริการของเรา

การตลาดออนไลน์ เวลาทำการ

เวลาทำการ

จันทร์ – ศุกร์

10:00 น. – 19:00 น.

Copyright © 2023 THE TEPCO Co.,Ltd. All Rights Reserved.

Scroll to Top

ให้ เดอะเท็ปโค่ พาคุณไปสู่เป้าหมายทางธุรกิจ

เราจะทำการตอบกลับให้เร็วที่สุด