อินฟลูเอนเซอร์ มีความสามารถในการเข้าถึงผู้บริโภคและสื่อสารกับลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถเสริมสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าหรือบริการได้
ซึ่งในยุคปัจจุบัน อาชีพ อินฟลูเอนเซอร์ คือ ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น ที่ใช้เวลากับโซเชียลมีเดียเป็นเวลานาน พวกเขาจึงกลายเป็นช่องสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ ในยุคปัจจุบัน
หากสงสัย Influencer คืออาชีพอะไร ทำไมถึงสำคัญกับการทำการตลาด บทความนี้จะบอกว่า อินฟลูเอนเซอร์ คืออะไร มีกี่ประเภท วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน
อินฟลูเอนเซอร์ คืออะไร
อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) คือ คนที่มีอิทธิพลบนโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook, Instagram, TikTok, Twitter หรือ YouTube อาจจะเป็นคนดัง หรือมีผู้ติดตาม (Follower) หรือเป็นที่รู้จักจำนวนมาก มักสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ ดึงดูดผู้คน ในเรื่องต่างๆ
ซึ่งความเห็นของพวกเขามีอิทธิพลต่อความคิดและการตัดสินใจ ซื้อสินค้าหรือบริการของกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มแฟนคลับ
ในปัจจุบัน การทำการตลาดร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดย Benchmark Report บอกว่า นักการตลาด 92% เชื่อว่า “Influencer Marketing” เป็นรูปแบบของการตลาดซึ่งมีประสิทธิภาพในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังมีรายงานที่ระบุว่า 50% ของชาวเจน Y เชื่อถือการแนะนำสินค้าโดย อินฟลู มากกว่าการแนะนำสินค้าโดย คนดังหรือพวกเซเลบ
เลือก Influencer ประเภทไหนให้ทำการตลาดประสบความสำเร็จ
การเลือก อินฟลูเอนเซอร์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการตลาด แบรนด์ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- กลุ่มเป้าหมาย: สินค้าหรือบริการของคุณมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นใคร? พวกเขามีพฤติกรรมการใช้งานโซเชียลมีเดียอย่างไร?
- เป้าหมายของแคมเปญ: ต้องการสร้างการรับรู้ กระตุ้นยอดขาย หรือสร้างภาพลักษณ์แบรนด์?
- งบประมาณ: มีงบประมาณสำหรับการทำงานร่วมกับอินฟลู มากน้อยแค่ไหน?
- สไตล์และบุคลิกของอินฟลูเอนเซอร์: ต้องการคนที่มีสไตล์และบุคลิกแบบไหน? ตรงกับภาพลักษณ์แบรนด์หรือไม่?
ซึ่งการเลือกใช้ อินฟลูเอนเซอร์ ให้ถูกประเภท สอดคล้องกับงบ เป้าหมายทางตลาด หรือกลุ่มลูกค้า จัดเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ การทำการตลาดของคุณประสบความสำเร็จได้
Influencer มีกี่ประเภท ?
ที่จะพูดถึงต่อไป คือ การแบ่งระดับ ประเภท Influencer ทั้ง 4 ประเภท ตามระดับจำนวนผู้ติดตามของแต่ละคน มีดังนี้
Nano Influencer
Nano Influencer คือ มีผู้ติดตาม 1,000-10,000 คน ซึ่งแม้จะน้อย แต่ก็มีข้อดีหลายข้อซึ่งส่งผลให้หลาย ๆ แบรนด์นิยมจ้างกัน
- ผู้ใช้งาน โซเชียลมีเดีย ไว้ใจมาก
- คอนเทนต์มียอด Engagement สูง
- มีศักยภาพในการกระตุ้นยอดขายแบบเฉพาะกลุ่ม
- พร้อมให้ความร่วมมือกับแบรนด์
- ค่าตัวไม่แพง
ส่วนข้อเสีย คือยอด Reach ไม่สูง ดังนั้น จึงไม่เหมาะสำหรับแคมเปญที่ต้องการยอด Reach มาก ๆ
นอกจากนี้ Nano ยังเป็นมืออาชีพในการทำงาน น้อยกว่า อินฟลูเอนเซอร์ กลุ่มอื่น ๆ
Micro Influencer
Micro Influencer คือ มีผู้ติดตาม 10,000 – 100,000 คน มักมีชื่อเสียงจากความรู้หรือทักษะเฉพาะด้าน
ข้อดีของการจ้าง Micro จะเหมือนกับของ Nano แต่มีส่วนที่เหนือกว่า คือ
- ชื่อเสียง
- ยอด Reach
- ความเป็นมืออาชีพ
ส่วนข้อเสีย คือยอด Reach ที่ไม่สูงนัก ยิ่งกว่านั้น Micro ยังมีค่าตัวสูงกว่า Nano ด้วย
Macro Influencer
Macro Influencer คือ มีผู้ติดตาม 100,000 – 1,000,000 คน มักโดดเด่นกว่า อินฟลูเอนเซอร์ โดยทั่วไป ด้วยยอดไลค์ ยอดแชร์ ยอดคอมเม้นต์ รวมถึงจำนวนสปอนเซอร์คอนเทนต์
ข้อดีของกลุ่มนี้ คือยอด Reach ที่มาก และความเป็นมืออาชีพในการทำงาน ที่สูงกว่า อินฟลู 2 กลุ่มแรกเนื่องจากมีประสบการณ์ทำงานมากกว่า
อย่างไรก็ตาม เพราะ อินฟลูเอนเซอร์ กลุ่มนี้ดังมาก จึงมีค่าตัวสูง และมีหลายแบรนด์ที่อยากร่วมงานด้วย จนทำให้คิวเต็มหรือมีโอกาสร่วมงานด้วยยาก
Mega หรือ Celebrity Influencer
Mega หรือ Celebrity Influencer มีผู้ติดตาม 1,000,000 คนขึ้นไป มักเป็นผู้มีชื่อเสียงอยู่แล้ว เช่น ดารา นักดนตรี นักกีฬา หรือผู้เชี่ยวชาญที่คนในวงการนั้น ๆ ให้การยอมรับ
อย่างที่รู้กัน Mega มีอิทธิพลต่อคนในสังคมสูงมาก ๆ การจ้างพวกเขาจึงดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เป็นอย่างมาก แถมอาจถึงขั้นเซ็ตเทรนด์ใหม่ให้กับสังคมได้เลย
และด้วยคุณสมบัติระดับพระกาฬนี้ จึงมีค่าตัวที่แพงกว่า อินฟลูเอนเซอร์ กลุ่มอื่น ๆ และเข้าถึงได้ยากกว่ามาก ๆ
จะเห็นว่า Influencer ในปัจจุบัน มีอยู่หลายประเภทมาก และแต่ละประเภทก็มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนจ้าง อินฟลูเอนเซอร์ แบรนด์ควรพิจารณาว่าประเภทใดเหมาะสมกับแบรนด์ กลุ่มลูกค้า เป้าหมายทางการตลาด หรือแม้แต่งบประมาณ ของตัวเองมากที่สุด
ซึ่งบริการของ THE TEPCO ครอบคลุมตั้งแต่ หาอินฟลูเอนเซอร์ KOL ที่เหมาะสม ไปจนถึงการเจรจา บรีฟงาน และควบคุมผลงาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
