Long Tail Keyword เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพในการเจาะกลุ่มเป้าหมาย โดยมีลักษณะเป็น Keyword แบบยาว มีความเฉพาะเจาะจงสูง ตอบโจทย์การหาข้อมูลมากกว่า Keyword ที่สั้นกว่า
โดยการทำ SEO ด้วย Keyword แบบนี้ นอกจากช่วยให้เว็บติดอันดับ SEO สูง ๆ เน้นการเกิด Conversion ได้ง่ายแล้ว ยังเป็นวิธีทำ SEO ที่จะมีประโยชน์ในอนาคตด้วย!
Long-Tail Keyword คืออะไร
Long tail keyword คือ คีย์เวิร์ดที่เป็นกลุ่มคำ ที่มีความยาวตั้งแต่ 3-5 คำ ประกอบด้วยคีย์เวิร์ดหลัก (หรือคีย์เวิร์ดกว้าง ๆ ไม่เจาะจง) กับคำอื่น ๆ ซึ่งทำให้คำค้นหามีความเฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น และยังทำให้เว็บติดอันดับ SEO สูง ๆ ได้ไม่ยากด้วย
Long tail keyword ตัวอย่าง
สำหรับใครที่ยังนึกภาพไม่ออก นี่คือ ตัวอย่างคีย์เวิร์ดแบบยาว
- milk tea brown ผมสี ชานม
- บิทคอยน์ เล่นยังไง pantip
- ราคา ที่ดิน 1 ไร่ 2564
- คอนโด 2 ห้องนอน ราคาล้านต้นๆ
- โทรศัพท์ samsung ราคาไม่เกิน 10000
ทำไมต้องใช้ Long Tail Keyword ทำ SEO
THE TEPCO แนะนำให้คุณทำ SEO ด้วยคีย์เวิร์ดแบบยาว เนื่องจากเหตุผลข้างล่างนี้
1. คู่แข่งน้อย
โดยทั่วไป คีย์เวิร์ดที่คนนิยมแทรกลงเว็บไซต์เพื่อทำ SEO คือคีย์เวิร์ดสั้น ๆ (Short-Tail Keyword) ซึ่งแม้มียอดค้นหา (Search Volume) สูง แต่ก็มีคู่แข่งมาก ทำให้ยากต่อ การทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ
ตรงกันข้าม คีย์เวิร์ดแบบยาว มียอดค้นหาไม่สูง แต่ก็มีคู่แข่งน้อย รวมถึงมีความเฉพาะเจาะจงมากกว่า เมื่อแทรกลงในเว็บไซต์แล้ว เว็บจึงมีโอกาสติด SEO อันดับสูง ๆ ได้ง่าย แถมยังมีแนวโน้มที่คนจะค้นเจอเว็บของคุณมากกว่าคีย์เวิร์ดสั้น ๆ ด้วย
2. มี Conversion สูง
คนที่ค้นหา Google ด้วยคีย์เวิร์ดแบบยาว มักสนใจในสินค้าหรือบริการบางอย่างอยู่แล้ว และเมื่อเจอสิ่งที่ตัวเองต้องการ ก็มีแนวโน้มจะตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก
ผลการศึกษาของ Ahrefs พบว่า Long-Tail Keyword มี Conversion Rate (อัตรากลายเป็นลูกค้า) ที่สูงกว่า Short-Tail Keyword ในอัตราเฉลี่ยราว ๆ 2.7 เท่า
นอกจากนี้ อีกสถิติหนึ่งบอกว่า 56% ของผู้ซื้อมักเสิร์ชหาสิ่งที่ตัวเองอยากได้ด้วยคีย์เวิร์ดที่ยาวตั้งแต่ 3 คำขึ้นไป
3. สอดคล้องกับการหาข้อมูลของคนทั่วไป
ปกติแล้ว เมื่อเราต้องการรู้อะไรบางอย่าง เรามักจะถามคำถามที่ละเอียด หรือมีความเจาะจงสูง
ซึ่งการหาคำตอบแบบนี้ เป็นแบบเดียวกับที่คนส่วนใหญ่เสิร์ชเรื่องที่อยากรู้ทาง Google นั่นคือไม่ใส่แค่ Keyword สั้น ๆ ในช่องค้นหา แต่จะใส่ Keyword คำค้นหาที่ยาวและเจาะจง เพื่อให้เจอข้อมูลที่ต้องการ
รายงานของ Ahrefs ปี 2023 บอกว่า ในปัจจุบันผู้คนกว่า 69.7% ให้ความสำคัญกับการค้นหาคำตอบโดยใช้คีย์เวิร์ดที่ยาวตั้งแต่ 4 คำขึ้นไป เพราะคีย์เวิร์ดดังกล่าวช่วยให้พวกเขาเจอผลลัพธ์ที่ต้องการ ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงหรือแค่เกี่ยวข้อง
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าอยากรู้ว่ามือถือราคาเท่าไร เราจะไม่ถามลอย ๆ ว่า “มือถือราคา?” แต่จะถามแบบเจาะจง เช่น “โทรศัพท์ Samsung S24 รุ่นใหม่ ราคาเท่าไร?” เป็นต้น
4. เป็น Keyword ที่ Google ให้ความสำคัญ
Google ต้องการให้ผู้ใช้งานเจอข้อมูลที่ต้อวการง่ายดายและรวดเร็ว ดังนั้นจึงให้ความสำคัญกับ Long-Tail Keyword มากกว่า Short-Tail Keyword
Long Tail Keyword กับการทำ SEO ในอนาคต
ในอนาคต Google มีแพลนจะเปิด Search Generative Experience หรือ SGE ให้ทุกคนใช้งาน
โดย SGE เป็น AI ที่จะช่วยให้การหาข้อมูลง่ายขึ้น เพราะแทนที่จะต้องกดอ่านข้อมูลจากเว็บไซต์ AI จะไปรวบรวมข้อมูลจากเว็บต่าง ๆ มาสรุปให้เราอ่านในหน้าแสดงผลการค้นหา พร้อมกับให้เครดิตว่าเอาข้อมูลมาจากเว็บไหนบ้าง
และอย่างที่คุณเข้าใจ SGE จะทำให้จำนวนคนคลิกดูข้อมูลจากเว็บไซต์น้อยลง ซึ่งอาจส่งผลต่อรายได้ที่แบรนด์ได้จากเว็บของตัวเองด้วย
และ 1 ในวิธีที่ “คาดว่า” จะใช้รับมือกับ SGE ได้ คือการแทรก Long-Tail Keyword เข้าไปในเว็บไซต์ เพราะคีย์เวิร์ดแบบยาวจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ SGE snippet ดึงข้อมูลจากเว็บของเรา ไปสรุปให้ผู้ใช้งาน Google อ่าน พร้อมทั้งให้เครดิต (Reference)โดยการทำแบบนี้ จะเรียกว่าเป็นแนวทางทำ SEO ในอนาคตก็คงไม่ผิด
นอกจากนี้ ถ้าข้อมูลที่ SGE สรุปให้ยังไม่ตรงใจ ผู้ใช้งาน Google จะเลือกหาข้อมูลจากเว็บไซต์แทน ซึ่งมีแนวโน้มจะตอบโจทย์ผู้ใช้งาน Google มากกว่า และทำให้พวกเขาสนใจคลิกอ่านมากกว่าด้วย
วิธีหา Long Tail Keyword มาใช้ ต้องทำยังไง
การค้นหา keyword ดี ๆ มาใช้ สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งที่ THE TEPCO ใช้อยู่บ่อย ๆ มีดังนี้
1. ค้นหาจาก Google
เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และได้ผลลัพธ์มากที่สุด โดยที่ต้องทำก็แค่พิมพ์คำค้นหาที่เป็นคียเวิร์ดหลักสักคำในช่องค้นหาของ Google แล้วดูว่า Google แนะนำคีย์เวิร์ดแบบยาวตัวไหนมาให้
ซึ่ง Keyword ที่โชว์ใน Google คือคำที่คนเค้าค้นหากันจริง ๆ และเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คนกำลังอยากรู้ในเวลานั้น
นอกจากนี้ ในตอนกลางหรือตอนท้ายของหน้าแสดงผลการค้นหา เรายังสามารถเจอ Long-tail ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สนใจได้อีกด้วย
2. ใช้ Ahrefs
Ahrefs รวมถึง Ubersuggest เป็นเครื่องมือช่วยทำ SEO (หรือ SEO Tools) ที่ใคร ๆ ก็ใช้กัน
โดยเราสามารถดูได้ว่าคีย์เวิร์ดขนาดยาวตัวไหนน่าสนใจ ด้วยการ พิมพ์ Keyword หรือคำที่เกี่ยวข้องลงไปในช่องค้นหา จากนั้นกด Enter เพื่อให้ Tools แสดง Keyword ในกลุ่มเดียวกัน รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ เช่น Search Volume, Keyword Difficulty (ความยาก-ง่ายในการทำ SEO), Traffic Potential (โอกาสได้คนเข้าเว็บไซต์) ของแต่ละคีย์เวิร์ดให้เราดู
นอกจากนี้ หากอยากค้นหาแค่ คีย์เวิร์ดแบบยาว ก็สามารถทำได้ โดยการ Filter เอาเฉพาะ Keyword ที่เป็น Featured Snippet, Knowledge Card, Knowledge Panel และ People Also Ask เพราะ Keyword ในกลุ่มนี้ส่วนมากจะเป็นคีย์เวิร์ดแบบยาว
Long-tail keyword มีข้อดีคือมีคู่แข่งน้อย และมีความเฉพาะเจาะจงสูง แตกต่างจาก Short-tail keyword ซึ่งมีคนใช้เยอะ แถมไม่เจาะจง ดังนั้น การแทรกคีย์เวิร์ดแบบยาวในเว็บไซต์ จึงช่วยผู้ใช้ Google เจอเว็บไซต์ของคุณได้ง่าย แถมยังตอบโจทย์การค้นหาของพวกเขาด้วย