ปัจจุบัน เครื่องมือช่วยทำ SEO หรือ SEO Tools มีให้เราเลือกใช้มากมาย แถมยังฟรีหลายตัว ซึ่งถ้าอยากรู้ว่า เครื่องมือช่วยทำ SEO มีอะไรบ้าง ดียังไง ใช้งานแบบไหน ก็สามารถอ่านได้จากบทความนี้
ทำไมต้องใช้ SEO Tools
เครื่องมือช่วยทำ SEO ต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ การทำ SEO ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้สามารถปรับปรุงเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีโอกาสติด SEO หน้าแรกมากยิ่งขึ้น
SEO Tools ฟรี มีอะไรบ้าง
อย่างที่บอกไปแล้วตอนต้นว่า เครื่องมือช่วยทำ SEO มีให้เลือกใช้มากมาย และที่เราอยากให้ทุกคนรู้จักกัน ก็คือ SEO Tools ฟรี เหล่านี้ ที่ใช้งานง่าย มีอะไรบ้างดังนี้
![SEO Tools free Ahrefs](https://thetepco.com/wp-content/uploads/2023/10/MOZ-1024x565.png)
1. Ahrefs
Ahrefs เป็นเครื่องมือทำ SEO ยอดนิยม สามารถใช้งานได้ทั้งแบบเสียเงินและแบบฟรี โดยแบบฟรีนั้น เราบอกว่าไม่ได้แย่ เพราะมีฟีเจอร์ให้เลือกใช้มากมาย เช่น
- Free Keyword Generator ใช้หา คีย์เวิร์ด ที่เหมาะสม เพื่อทำ SEO ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Google, Bing, Amazon และ Youtube
- Backlink Checker ใช้เช็คจำนวน Backlink หรือลิงก์ซึ่งย้อนกลับมายังเว็บไซต์ รวมถึงความแข็งแรงของโดเมน (หรือ Domain Rating) ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ ยิ่งเยอะเท่าไร ก็ยิ่งดีต่อเว็บไซต์
- Website Traffic Checker ใช้เช็คยอดเข้าชมเว็บไซต์, Keyword ซึ่งดึงดูดคนเข้าชมเว็บไซต์ได้มากที่สุด รวมถึงหน้าเว็บที่คนเข้าเยอะที่สุด
- Keyword Rank Checker ใช้ดูว่าเว็บของคุณ ติดอันดับ SEO ที่เท่าไร ใน Keyword ที่คุณเลือกไว้
และนอกจากฟีเจอร์เหล่านี้ Ahrefs ก็มี AI Writing Tools เป็น AI ช่วยเขียนคอนเทนต์ SEO ให้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นด้วย
ใช้งานได้ที่ : Ahrefs Free
![Moz SEO Tools](https://thetepco.com/wp-content/uploads/2023/10/Ahrefs-1024x448.png)
2. Moz
Moz เป็น SEO Tools ซึ่งมีทั้งแบบฟรีและไม่ฟรี โดยฟีเจอร์แนะนำสำหรับ Moz แบบฟรี ที่เราแนะนำ มีดังนี้
- Domain Analysis ใช้วิเคราะห์ลิงก์เว็บไซต์ โดยบอกได้ว่าเว็บไซต์ มีค่าความน่าเชื่อถือ (Domain Authority) และคะแนนความนิยม (Page Authority) มากน้อยแค่ไหน ในแต่หน้า และมี Keyword กี่ตัวที่ติด SEO อันดับต้น ๆ
- Keyword Explorer ใช้หาคีย์เวิร์ด และวิเคราะห์คีย์เวิร์ดของเว็บไซต์
- Competitive Research ใช้ดูว่าเว็บไหนคือคู่แข่งของเว็บไซต์คุณ ในเรื่องของคุณภาพเว็บไซต์ และสามารถเทียบดู Keyword ที่แต่ละเว็บใช้ได้
- Link Explorer ใช้วิเคราะห์ได้ว่าลิงก์เว็บไซต์หรือหน้าเว็บนั้น ๆ มีลิงก์ภายใน, ภายนอก และมีลิงก์ย้อนกลับเชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ไหนบ้าง มีค่าคะแนนความเป็นที่นิยมเท่าไหร่ และมีลิงก์คำสำคัญ (Anchor Text) เด่น ๆ อะไรบ้าง
และที่ไม่เหมือนใคร คือ Moz มี Extension ชื่อ MozBar ให้โหลดไว้ใช้งานกับ Browser ด้วย โดย MozBar จะทำให้คุณเห็นข้อมูลของเว็บไซต์ต่าง ๆ ทันทีเมื่อกดเข้าไป ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์เว็บไซต์เพื่อพัฒนาอันดับ SEO ของเว็บตัวเอง
ใช้งานได้ที่ : Moz
![SEOquake Extension](https://thetepco.com/wp-content/uploads/2023/10/SEOQUAKE-1024x566.png)
3. SEOquake
SEOquake เป็น Extension สำหรับวิเคราะห์เว็บไซต์แบบเต็มรูปแบบ โดยหลังจาก Installed แล้ว คุณสามารถใช้ SEOquake ดูข้อมูลเหล่านี้ของเว็บที่กำลังเข้าอยู่ได้
- ความหนาแน่นของคีย์เวิร์ด (Keyword Density) ว่าพบในหน้าส่วนไหนบ้าง มีจำนวนกี่คำ คิดเป็นกี่ %
- รายละเอียดเกี่ยวกับหน้าเว็บ เช่น URL, Title, Meta Description และอีกมากมาย
- ลิงก์ภายในเว็บ (Internal link)
- ลิงก์ไปยังภายนอก (External Link)
- Server ที่ใช้อยู่ของเว็บไซต์
- จำนวน Backlink
นอกจากนี้ SEOquake ยังมี ฟีเจอร์ “Diagnosis” ที่จะทำ SEO Audit เว็บไซต์และบอกว่าเว็บมีรายละเอียดอะไรที่ต้องปรับปรุง เพื่อให้เว็บมีโอกาสติด SEO ในอันดับที่สูงขึ้น
ใช้งานได้ที่ : SEOquake
![Martech SEO Page Speed](https://thetepco.com/wp-content/uploads/2023/10/PAGESPEEDINSIGHT-1024x556.png)
4. PageSpeed Insights
ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ Google ใช้จัดอันดับ SEO โดย PageSpeed Insights สามารถบอก ความเร็วของเว็บไซต์ ได้ว่าไวแค่ไหน โดยแบ่งความเร็วเว็บไซต์เป็นค่าย่อย ๆ เช่น
- Largest Contentful Paint (LCP) คือ ระยะเวลาที่เว็บโหลดองค์ประกอบที่ใหญ่ที่สุด
- First Input Delay (FID) คือ ระยะเวลาที่เว็บไซต์ตอบสนองผู้ใช้งาน เมื่อคลิกปุ่มต่าง ๆ
- Cumulative Layout Shift (CLS) คือ ความเสถียรของการจัดวาง Layout ต่าง ๆ บนหน้าเว็บไซต์
- First Contentful Paint (FCP) คือ ระยะเวลาที่โครงสร้างหลักของเว็บปรากฏ
- Total Blocking Time คือ ระยะเวลาก่อนที่เว็บจะสามารถคลิกหรือกรอกข้อมูลได้
- Speed Index คือ ระยะเวลาที่คอนเทนต์ปรากฏระหว่างโหลดหน้าเว็บ
และถ้าเว็บไซต์ของคุณมี Performance ที่โอเค ค่าต่าง ๆ จะแสดงผลเป็นสีเขียว โดยคะแนน Performance ของ PageSpeed Insights จะแสดงผลเป็นค่าตัวเลข 0-100
ใช้งานได้ที่ : PageSpeed Insights
![เครื่องมือช่วยทำ SEO Google Search Console](https://thetepco.com/wp-content/uploads/2023/10/GOOGLESEARCHCONSOLE-1024x558.png)
5. Google Search Console
Google Search Console (GSC) เป็น SEO Tools ฟรี จาก Google ซึ่งต้องลงทะเบียนก่อนถึงจะใช้ได้ โดย GSC ใช้วิเคราะห์และดูรายงานการเข้าชมเว็บไซต์แบบ Organic Search แบ่งตามรายหน้า รายคีย์เวิร์ด รายประเทศ และรายอุปกรณ์
ในการใช้งาน GSC คุณต้องเพิ่มโดเมนหรือลิงก์เว็บไซต์เข้าไป เพื่อให้เครื่องมือแสดงข้อมูลต่าง ๆ ของเว็บให้ดู โดยข้อมูลดังกล่าว ก็อย่างเช่น
- ยอดคลิก (Clicks)
- สัดส่วนการแสดงผล (Impressions)
- จำนวนการคลิก (Click Through Rate, CTR)
- คำค้นหาที่คนคลิกเข้าเว็บไซต์ (Organic Keyword)
- จำนวนหน้าเว็บที่ Google ตรวจพบแล้ว
- ประสบการณ์การใช้งานผ่านมือถือและคอมพิวเตอร์ (Page Expereince)
ถ้าคุณเพิ่งอัปเดตหรือสร้างหน้าเว็บใหม่ และอยากให้ Google ส่ง Bot เข้ามาจัดอันดับ SEO ไว ๆ ก็สามารถใช้งาน Google Search Console ได้
ใช้งานได้ที่ : Google Search Console
มาถึงตรงนี้ ทุกคนคงเข้าใจแล้วว่า SEO Tools มีความสำคัญไม่น้อยต่อการทำ SEO และการใช้เครื่องมือเพียง 1-2 ตัว ก็ไม่สามารถทำให้กลยุทธ์ SEO ของคุณประสบความสำเร็จได้ เนื่องจากเครื่องมือแต่ละตัว มีฟังก์ชันที่ไม่เหมือนกัน
และถ้าคุณจ้างเราทำ SEO ให้ เอเจนซี่รับทำ SEO ของเราจะใช้เครื่องมือมากกว่า 5 ตัวข้างบน เพื่อให้การวิเคราะห์เว็บไซต์ของคุณเป็นไปอย่างละเอียดที่สุด จนเห็นทุกข้อบกพร่องหรือจุดที่สามารถปรับปรุงได้