Google Lighthouse คือ เครื่องมือที่อยู่เบื้องหลัง PageSpeed Insights ทำหน้าที่วิเคราะห์เว็บไซต์และเว็บแอพพลิเคชั่น พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึก ซึ่งมีเป็นประโยชน์ต่อการทำ SEO หรือการทำให้เว็บติดอันดับ ค้นเจอได้ง่ายขึ้น เมื่อค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องผ่าน Google
Google Lighthouse บอกอะไรบ้าง
วิธีการใช้งาน Google lighthouse เพียงคลิกที่นี้ > Lighthouse Extensions เพื่อเพิ่ม Extension ลงใน Google Chrome แล้ว คุณสามารถใช้งาน Lighthouse ได้ ด้วยการกดสัญลักษณ์ Extensions บริเวณมุมขวาบนของจอ (ตามภาพด้านบน)
เลือก Lighthouse แล้วคลิก Generate Report เพื่อให้โปรแกรมประเมินคุณภาพของเว็บไซต์ที่กำลังเข้าอยู่ โดยผลลัพธ์จะแสดงในหน้าต่างของโปรแกรม และแยกเป็นหมวดย่อยต่าง ๆ ดังนี้
1.Performance
Performance บอกได้ว่าหน้าเว็บโหลดเร็วหรือช้า (Page Speed) โดยผลลัพธ์จะแสดงเป็นตัวเลข 0-100 และประเมินจากตัวชี้วัดต่าง ๆ บนเว็บไซต์ (Core web vitals) ดังต่อไปนี้
- First Contentful Paint (FCP) หมายถึง เวลาที่ภาพหรือตัวอักษรแรกปรากฏให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์เห็น
- Largest Contentful Paint (LCP) หมายถึง เวลาที่หน้าเว็บโหลดองค์ประกอบที่ขนาดใหญ่ที่สุด
- Total Blocking Time (TBT) หมายถึง เวลาที่หน้าเว็บตอบสนองต่อการคลิก
- Cumulative Layout Shift (CLS) หมายถึง การเคลื่อนขององค์ประกอบเว็บไซต์
- Speed Index หมายถึง ความเร็วในการโหลดคอนเทนต์บนหน้าเว็บ
ทั้งนี้ ยิ่งหน้าเว็บโหลดเร็ว และมีค่าตัวชี้วัดดีเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีผลต่อการจัดอันดับ SEO ของเว็บไซต์ในหน้าแสดงผลการค้นหาของ Google มากเท่านั้น
2.Accessibility
Accessibility ประเมินคุณภาพในการเข้าถึงหน้าเว็บต่าง ๆ ได้ โดยคะแนนการเข้าถึงจะให้แบบ 0-100 และประเมินจากองค์ประกอบบนหน้าเว็บ อย่างปุ่ม ลิงก์ หรือ Alt Text ในภาพ
3.Best Practices
Best Practices เป็นส่วนที่บอกว่าหน้าเว็บของคุณถูกสร้างตามมาตรฐานการพัฒนาเว็บไซต์หรือไม่ และยังหมายรวมถึงความปลอดภัยหรือความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ด้วย
4.SEO
SEO หรือ การทำ SEO ของเว็บไซต์ให้ติดอันดับบน Google โดยให้คะแนนจาก 0-100 ได้ โดยคะแนนดังกล่าว จะอ้างอิงจากองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างของหน้าเว็บ เช่น โครงสร้าง ลิงก์ภายใน (Internal Link), Alt Text ในภาพ, Title Tag และ Meta Description รวมถึงคุณภาพในการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Responsive) ด้วย
อย่างไรก็ตาม การประเมินคุณภาพการทำ SEO ของ Lighthouse ไม่ได้ละเอียดมากนัก ถ้าต้องการทำ SEO แบบจริงจัง จึงควรใช้โปรแกรม SEO (SEO tools) อื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น Ahrefs , SEOquake หรือ MozBar
5.Progressive Web App
Progressive Web App (PWA) เป็นส่วนที่ประเมินว่าหน้าเว็บของคุณ เป็น Progressive Web Application หรือไม่ แต่ไม่ให้คะแนนจาก 0-100 แบบหมวดอื่น ๆ
ทั้งนี้ PWA คือเว็บไซต์ธรรมดาที่ใกล้เคียงกับแอปพลิเคชัน โดยเกณฑ์ที่ใช้ประเมินว่าเว็บใดเป็น PWA มีอยู่หลายอย่าง เช่น ความเร็ว ความเสถียรในการใช้งานผ่านเครื่องมือต่าง ๆ ความสามารถในการใช้งานแบบ Offline เป็นต้น
ใช้งาน Google Lighthouse บน PageSpeed Insights
PageSpeed Insights เป็นเครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์ประสิทธิภาพเว็บไซต์จาก Google โดยสามารถใช้งาน Google lighthouse ได้ฟรี ผ่านลิงก์นี้ https://pagespeed.web.dev/
โดยในหน้าแรกของ PageSpeed Insights ผู้ใช้งานต้องใส่ URL หรือลิงก์ของเว็บไซต์ที่ต้องการประเมิน จากนั้นกด “Analyze” เพื่อประเมินคุณภาพเว็บไซต์ โดยผลที่แสดงออกมา จะเหมือนกับของ Lighthouse แต่ไม่มี PWA
THE TEPCO รับทำ SEO และปรับ Performance เว็บไซต์
หากอยากให้เว็บไซต์มี Performance ที่ดี และได้คะแนน SEO เต็ม 100 % แบบ THE TEPCO ก็สามารถใช้บริการ กับเราได้
ซึ่งเราให้บริการ Pagespeed Optimize และ รับทำ SEO แบบเต็มรูปแบบ ในแพ็คเกจของเรา ทั้งประเมินคุณภาพของเว็บไซต์, ปรับความเร็วของเว็บไซต์ (PageSpeed) เพื่อปรับปรุงให้ Performance เว็บไซต์ดียิ่งขึ้น, เขียนบทความ SEO และรับทำ Backlink คุณภาพสูง เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ รวมอยู่ในเพ็คเกจด้วย