Local SEO คืออะไร? ต่างกับ SEO ปกติหรือไม่

ในปัจจุบันเนื่องจากมีธุรกิจ และร้านค้า เกิดใหม่ขึ้นมามากมาย ที่ต่างทำการตลาดแย่งลูกค้ากันเองในพื้นที่ของตน การมีกลยุทธ์ที่จะสามารถเอาชนะคู่แข่งในพื้นที่ของตนได้นั้นเป็นเรื่องที่ทุกธุรกิจควรทำ และกลยุทธ์ที่ว่าก็คือ การทำ Local SEO

ซึ่งเป็นกระบวนการทำ SEO เพิ่มโอกาสในการปรากฏในผลการค้นหาในท้องถิ่น หรือ บริเวณใกล้เคียง

เมื่อผู้คนค้นหาข้อมูลธุรกิจ ในพื้นที่ของตน ซึ่งแตกต่างกับการทำ SEO แบบปกติ

โดยเป็นกลยุทธ์ที่มีความสำคัญสำหรับอย่างมากกับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง เพราะช่วยให้สามารถแข่งขันกับธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มีงบประมาณการตลาดมากกว่าได้ หากอยากรู้ว่า Local SEO คืออะไร และมีวิธีการทำอย่างไร สามารถอ่านได้ในบทความนี้

Local SEO คืออะไร

Local SEO คือ การทำ SEO ให้เว็บไซต์ ร้านค้าหรือบริการของคุณ ติดอันดับบน Google ในพื้นที่บริเวณท้องถิ่น (Local Business) หรือ บริเวณพื้นที่ใกล้เคียง หรือพื้นที่ที่ต้องการ เมื่อผู้คนทำการค้นหาผ่าน Keyword + Location แบบเจาะจงพื้นที่ เช่น Creative Agency ใกล้ฉัน, ร้านอาหาร ชิดลม ,ร้านกาแฟ ใกล้ฉัน เป็นต้น

ข้อดีของการทำ Local SEO ช่วยให้ธุรกิจของคุณ ถูกพบเจอมากขึ้นในบริเวณพื้นที่ของตน และบริเวณที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสที่จะได้ลูกค้าที่มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้า และบริการของคุณมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างเช่น การทำผ่าน Google Business Profile หรือ Google My Business เป็นการกรอกข้อมูลโปรไฟล์ธุรกิจของคุณ เพื่อทำให้ธุรกิจถูกเจอ เมื่อมีการค้นหาประเภทของธุรกิจ + ย่านหรือทำเลที่ตั้ง ผ่าน Google เช่น เช่ารถ บางนา, ร้านแอร์ นนทบุรี, ที่พัก อ่างทอง, ร้านอาหาร ใกล้ฉัน เป็นต้น

สถิติน่าสนใจ เกี่ยวกับ Local SEO 

• คน 97% ค้นหาธุรกิจในท้องถิ่นผ่านอินเตอร์เน็ต
• ธุรกิจลำดับแรกในหน้าแสดงผลการค้นหา มีอัตราถูกคลิกสูงถึง 24.4%
• 78% ของการค้นหาธุรกิจในท้องถิ่นผ่านช่องทางออนไลน์ ลงเอยด้วยการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออฟไลน์
• 70% ของผู้บริโภคจะแวะร้านค้า เพื่อทราบข้อมูลจากสื่อออนไลน์
• คนกว่า 50% ที่การค้นหาธุรกิจท้องถิ่นด้วยคำว่า “ใกล้ฉัน” ตัดสินใจซื้อของหน้าร้านในภายหลัง
• 62% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มจะไม่สนใจธุรกิจที่ไม่มีข้อมูลออนไลน์
• 86% ใช้ Google Maps เพื่อค้นหาธุรกิจในท้องถิ่น
• 61% ของผู้บริโภคบอกตัวเองค้นหาธุรกิจในท้องถิ่นทุกวัน ขณะที่คนราว 29% ค้นหาธุรกิจในท้องถิ่นสัปดาห์ละครั้ง
• โดยเฉลี่ยแล้วการทำ SEO แบบนี้ จะเห็นผลตอบแทนภายใน 4.76 เดือน

Local SEO ทำอย่างไร?

การทำ Local SEO ให้ธุรกิจถูกค้นเจอได้ง่ายขึ้นผ่าน Google มีอยู่หลายวิธี ดังนี้

1. ทำ Google My Business หรือ ปักหมุด Google map และใส่รายละเอียดของธุรกิจในฐานข้อมูลของ Google เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถเจอได้ผ่าน Google Search หรือ Google Maps
2. ทำหน้า Google My Business หรือใส่ข้อมูล Google Business Profile ให้น่าสนใจ ด้วยการเพิ่มภาพสวย ๆ ของธุรกิจคุณ และรายละเอียดที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น บทความ ผลิตภัณฑ์ บริการต่าง ๆ
3. เพิ่มรีวิวแง่บวกบน Google My Business เพราะจำนวนรีวิวมีความสำคัญทั้งอันดับ SEO และจำนวนลูกค้าที่อยากซื้อสินค้าหรืออยากใช้บริการ ทั้งนี้ รีวิวมาจากการคุณภาพของสินค้าและบริการ รวมถึงกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่เจ้าของธุรกิจใช้กระตุ้นให้ลูกค้าอยากรีวิวธุรกิจของตน เช่น การส่งเมลหรือให้ของรางวัลแลกกับรีวิว
4. แชร์หน้า Google My Business เพราะยอดแชร์ทางโซเชียลมีเดีย มีผลมากต่อคะแนน SEO ของธุรกิจและเว็บไซต์ธุรกิจ
5. ทำ Business Directory โพสต์ชื่อของธุรกิจ ที่อยู่ และเบอร์ติดต่อตามเว็บไซต์ฝากข้อมูลต่าง ๆ เนื่องจาก Google จะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อยืนยันถึงความน่าเชื่อถือของธุรกิจคุณ และยังได้ Backlinks และค่า Domain Authority (DA) ส่งผลให้ Google ให้คะแนน SEO ของคุณดีขึ้นและดันอันดับให้สูงขึ้นได้อีกด้วย
6. เพิ่มที่อยู่ของธุรกิจในเว็บไซต์ รวมถึงเบอร์ติดต่อ เวลาเปิด-ปิด จำนวนที่จอดรถ และวิธีเดินทาง
7. ทำ Backlinks กับเว็บไซต์ราชการหรือองค์กรที่น่าเชื่อถือ โดย Backlinks จะบอกให้ Google รู้ว่าธุรกิจของคุณนั้นถูกกฏหมาย และยังช่วยเพิ่มคะแนน Domain Authority ให้เว็บไซต์ของคุณได้อีกด้วย

วิธีการทำ Google Business Profile ติดหน้าแรก มีหลักเกณฑ์อะไร

อัลกอริทึมของ Google จะจัดลำดับ Google Business Profile (GBP) หรือ ธุรกิจในหน้าแสดงผลการค้นหา โดยอิงจากตัวแรกดังต่อไปนี้

• ความเกี่ยวข้อง (Relevance) หมายถึง ธุรกิจนั้นเกี่ยวข้องกับคำค้นหามากน้อยเพียงใด
• ระยะทาง (Distance) หมายถึง ระยะทางของธุรกิจกับตำแหน่งจุดที่ผู้ใช้ค้นหาด้วย Google
• ความน่าเชื่อถือ (Prominence) หมายถึง ปัจจัยต่างๆ เช่น มีรีวิวและคะแนนสูง ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ
• ความสมบูรณ์ (Completeness) หมายถึง มีข้อมูลครบถ้วนและถูกต้อง เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และเว็บไซต์

และ Google ยังใช้ปัจจัยอื่นๆ ในการตัดสินการจัดลำดับ GBP เช่น ปริมาณการค้นหา ปริมาณการเยี่ยมชมเว็บไซต์ และปริมาณการคลิกผ่านไปยังเว็บไซต์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่อง SEO การทำ Local SEO ก็สามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณ ติดหน้าแรก Google ได้ง่ายขึ้นอย่างมาก และเว็บไซต์ก็ควรทำ On page SEO และ Off page SEO ไปพร้อมๆกัน เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ของคุณถูกเจอได้ง่ายกว่าการทำ Google My Business เพียงอย่างเดียว

และแน่นอนว่า ยิ่งธุรกิจของคุณถูกเจอง่ายขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสเพิ่มยอดขายมากขึ้นเท่านั้น

หากอยากให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากขึ้น คุณสามารถจ้าง THE TEPCO ได้ โดยเราเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการตลาดออนไลน์ และ รับทำ SEO ,ปักหมุด Google map สร้าง Google my Business ปักหมุดธุรกิจของคุณ เพื่อช่วยให้ธุรกิจหรือเว็บไซต์ของคุณ สามารถเจอได้ง่ายขึ้นเมื่อมีคนเสิร์ช Google ด้วยคำที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ