Share of Voice (SOV) คือ สัดส่วนที่แบรนด์ถูกกล่าวถึง เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่บอกได้ว่า แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักมากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับคู่แข่งในท้องตลาด
แต่เดิมใช้ประเมิน Performance ของ การโฆษณาผ่านช่องทางดั้งเดิมอย่างสิ่งพิมพ์ วิทยุ หรือโทรทัศน์ แต่ปัจจุบัน ตัวชี้วัดนี้ถูกปรับมาใช้ประเมิน Brand Awareness เมื่อแบรนด์โฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์
Share of Voice มีความสำคัญอย่างไร
SOV ช่วยให้แบรนด์ทราบว่า Performance ของตัวเองอยู่ในระดับไหน ไม่ว่าในแง่ของการเข้าถึงผู้บริโภคผ่านการโฆษณา การถูกพูดถึงทางโซเชียลมีเดีย รวมถึงจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์
นอกจากนี้ SOV ยังมีประโยชน์ต่อแบรนด์อีกหลายด้าน อาทิ
- ส่วนแบ่งตลาด การเปรียบเทียบ SOV ของตัวเองและแบรนด์คู่แข่ง ช่วยให้แบรนด์เข้าใจเกี่ยวกับส่วนแบ่งตลาดของตัวเองมากขึ้น
- โอกาสเติบโต SOV ช่วยเพิ่มโอกาสเติบโตของแบรนด์ ยกตัวอย่างเช่น หากเห็นว่า SOV ของแบรนด์แย่กว่าของคู่แข่งในโซเชียลมีเดีย แบรนด์ก็สามารถปรับปรุงโซเชียลมีเดียของตัวเอง เพื่อให้มีโอกาสเติบโตทางโซเชียลมีเดียที่มากขึ้นได้
- Brand Awareness และ Brand Loyalty SOV มีส่วนทำให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์และอยากซื้อสินค้า-บริการซ้ำ นอกจากนี้ การติดตามระดับ SOV อย่างสม่ำเสมอยังช่วยให้แบรนด์รู้ว่าควรใช้กลยุทธ์การตลาดแบบใด เพื่อให้แบรนด์เอาชนะใจผู้บริโภคได้
SOV คำนวณได้อย่างไร?
สูตรคำนวณหา SOV มีสูตรเดียว คือ (ตัวชี้วัด Performance ของแบรนด์ (หรือแบรนด์คู่แข่ง) / ตัวชี้วัดเดียวกันทั้งหมด) x 100
สำหรับตัวชี้วัดที่สามารถใช้คำนวณหา SOV นั้นมีอยู่มากมาย เช่น
- จำนวนบทความที่พูดถึงแบรนด์
- จำนวนโฆษณาที่แสดงผ่านแอปพลิเคชัน (Ad Impression)
- จำนวนครั้งที่คนเสิร์ชหาแบรนด์ (Organic Search)
- จำนวน Hashtag
- ยอดจำนวนคนที่พบเห็น (Reach)
- ยอดรายได้
หากไม่อยากคำนวณหรือติดตาม SOV ด้วยตัวเอง แบรนด์สามารถใช้เครื่องมือต่อไปนี้เพื่อคำนวณได้
- Google Trends
- Brandwatch Consumer Intelligence
- Pacvue Commerce
- Clerk.io
- Talkwalker Analytics
- Klear
- SEMrush
- Hootsuite
5 วิธีเพิ่ม SOV ให้กับแบรนด์
แบรนด์สามารถเพิ่ม SOV ของตัวเองได้ด้วยวิธีต่อไปนี้ หากพบว่า SOV ของตัวเองอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับของคู่แข่ง
- โพสต์ทางโซเชียลมีเดียบ่อย ๆ และอย่างสม่ำเสมอ
- สร้างคอนเทนต์คุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ตลก คอนเทนต์ให้ความรู้ หรือคอนเทนต์สร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งผู้บริโภคชอบและอยากแชร์
- ตอบคอมเมนต์หรือข้อความทางโซเชียลมีเดีย เพื่อกระตุ้น Engagement ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค
- กระตุ้นผู้บริโภคใช้ติดตามแบรนด์ทางโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ยอด Engagement ของแบรนด์เพิ่มสูงขึ้น
- โปรโมตแบรนด์วิธีอื่น ๆ นอกจากเขียนโพสต์ เช่น เขียนบล็อก ทำ SEO หรือยิงโฆษณาออนไลน์
Share of Voice เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของการทำการตลาดแบบปากต่อปาก (Word-of-Mouth Marketing) ซึ่งเป็นหนึ่งในการตลาดที่ทรงพลังที่สุด เพราะเป็นการตลาดที่เกิดขึ้นจากความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีของผู้บริโภคที่เล่าต่อให้ผู้อื่นทราบ
ยิ่งแบรนด์มี SOV สูง ก็ยิ่งหมายถึงแบรนด์เป็นที่รู้จักและพูดถึงมากในตลาด มีโอกาสที่ผู้บริโภคจะเลือกซื้อสินค้านั้น ๆ มากขึ้น และช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ แบรนด์สามารถเพิ่ม SOV ได้ด้วยการสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ให้กับผู้บริโภค ส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับแบรนด์บนโซเชียลมีเดีย และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคในทุกจุดสัมผัส