ในยุคที่ธุรกิจแข่งขันกันสูง และการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว กลยุทธ์สำคัญอย่าง รีแบรนด์ดิ้ง (Rebranding) เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณอยู่รอด ดูทันสมัย และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้
และบทความนี้จะเล่าให้คุณฟังว่า การรีแบรนด์ คืออะไร ควรทำเมื่อไร พร้อมยกตัวอย่างการที่น่าสนใจให้ฟัง
![การรีแบรนด์ ตัวอย่าง](https://thetepco.com/wp-content/uploads/2023/10/rebranding-example.webp)
Rebranding คืออะไร
การรีแบรนด์ (Rebranding) คือ กลยุทธ์การตลาดแบบหนึ่ง หมายถึงการปรับเปลี่ยนอัตลักษณ์และตัวตนของแบรนด์ ให้สอดคล้องกับยุคสมัยและความต้องการของผู้บริโภค เพื่อทำให้แบรนด์โดดเด่น ดูทันสมัย จดจำได้ง่าย หรือแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดเดียวกัน
โดย การรีแบรนด์ ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนชื่อหรือโลโก้ของแบรนด์ แต่ยังหมายรวมถึงปรับเปลี่ยนองค์ประกอบอื่น ๆ ของแบรนด์ด้วย เช่น
- จุดยืนหรือวิสัยทัศน์ของแบรนด์
- วัฒนธรรมองค์กร
- ธีมสี
- สโลแกน
- น้ำเสียงหรือความรู้สึกที่แบรนด์ใช้ในการสื่อสาร
- เปลี่ยนรูปแบบของโฆษณาทางสื่อต่าง ๆ
- หน้าตาของสินค้า, บรรจุภัณฑ์
![Rebranding logo](https://thetepco.com/wp-content/uploads/2023/10/รีแบรนด์-starbucks.png)
Rebrand ควรทำเมื่อไร
รีแบรนด์ เป็นกระบวนการที่ช่วยให้ธุรกิจไปต่อได้ ซึ่งแม้แต่แบรนด์ใหญ่ ๆ เองก็เคยทำ เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี หรือสิ่งที่ทำอยู่มันไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคแล้ว
และถ้าถามว่า ควรรีแบรนด์ เมื่อไร เรามีความเห็นว่า แบรนด์ควรรีแบรนด์ ในสถานการณ์ต่อไปนี้
1. แบรนด์ไม่ทันสมัยแล้ว
เมื่อภาพลักษณ์หรือรูปแบบการนำเสนอดูไม่ทันสมัยแล้ว แบรนด์ควร รีแบรนด์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งกันกับแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาด
และโดยทั่วไป แบรนด์ที่ไม่ทันสมัยแล้ว จะมีลักษณะตามนี้
- ไม่สอดคล้องกับสไตล์ หรือรูปแบบของธุรกิจที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน
- ได้รับความสนใจน้อยลง
- ถูกมองในแง่ลบ ทั้งที่แต่ก่อนไม่เคยถูกมองแบบนั้น
- มีโลโก้ซึ่งแตกต่างจากของคู่แข่งมากเกินไป
- ไม่สะท้อนถึงคุณค่าขององค์กรอีกต่อไปแล้ว
- มีหน้าเว็บที่เชย ไม่ทันสมัย แถมคนเข้าน้อยลง
2. กลุ่มเป้าหมายไม่ชัดเจน
แบรนด์ควรรีแบรนด์ หากตระหนักว่ากลุ่มเป้าหมายของตัวเองไม่ชัดเจน หรือรู้ว่าจริง ๆ แล้วใครคือลูกค้าของตัวเองกันแน่
และแน่นอน เมื่อแบรนด์ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ก็ต้องรีแบรนด์เช่นกัน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายใหม่รู้ว่าแบรนด์ต้องการขายสินค้า-บริการให้กับพวกเขา
![Rebranding ตัวอย่าง](https://thetepco.com/wp-content/uploads/2023/10/rebrand-apple.webp)
3. จุดขายของแบรนด์ไม่ชัดเจน
การรีแบรนด์ ช่วยให้ผู้บริโภครู้ว่าแบรนด์มีดีอะไร ซึ่งทำให้สินค้าหรือบริการน่าซื้อยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ปัญหาจุดขายไม่ชัดเจน อาจเกิดการสื่อสารที่ผิดพลาดระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค
4. แบรนด์ไม่แตกต่างจากคู่แข่ง
ถ้าเห็นว่าแบรนด์ตัวเองไม่ได้แตกต่างจากแบรนด์คู่แข่ง แบรนด์ควรปรับภาพลักษณ์ เพื่อทำให้แบรนด์โดดเด่นจากแบรนด์อื่น ๆ และมีศักยภาพในการแข่งขันกับแบรนด์คู่แข่งมากขึ้น
5. ภาพลักษณ์ของแบรนด์ติดลบ
ภาพลักษณ์ของแบรนด์ อาจแย่ลงได้จากแคมเปญการตลาดที่ผิดพลาด ข่าวอื้อฉาว หรือแม้แต่มุมมองที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค
และเมื่อภาพลักษณ์แย่ลง สินค้าหรือบริการของแบรนด์ ก็มีแนวโน้มจะขายได้ยากขึ้นด้วย ทำให้แบรนด์ต้องมี การรีแบรนด์ เพื่อปรับให้ภาพลักษณ์ดีขึ้น และเป็นการรักษาฐานลูกค้าไว้ในเวลาเดียวกัน
นอกจากสถานการณ์ 5 ข้อข้างบน ก็ยังมีอีกหลายสถานการณ์ที่เป็นสัญญาณบอกว่าแบรนด์ต้องปรับภาพลักษณ์แล้ว เช่น
- แบรนด์ใหญ่ขึ้น เติบโตจนไม่เหมือนเดิม
- แบรนด์โกอินเตอร์ หรือขยายตัวไปยังต่างประเทศ
- แบรนด์ต้องการดูหรูขึ้น เพื่อให้ขายสินค้าได้ในราคาที่แพงขึ้น
- แบรนด์ไม่น่าสนใจ พอจะดึงคนเก่ง ๆ มาร่วมงานด้วย
- โมเดลธุรกิจหรือกลยุทธ์ทางธุรกิจไม่เหมือนเดิม
- ธุรกิจมีการควบรวมกับธุรกิจอื่น ทำให้โครงสร้างและขนาดของธุรกิจเปลี่ยนไป
รีแบรนด์ ตัวอย่างของแบรนด์ดัง
อย่างที่กล่าวไปแล้ว ว่า การรีแบรนด์ เป็นสิ่งที่แบรนด์ต้องทำเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ และที่จะกล่าวถึงต่อไป คือ ตัวอย่างการ Rebranding ของแบรนด์ดังอย่าง Dunkin’, Lego และ ศรีจันทร์
![rebranding ตัวอย่าง](https://thetepco.com/wp-content/uploads/2023/10/logo-ของ-dunkin.jpeg)
1. Dunkin’
หลายคนคงสังเกตเห็นว่า Dunkin’ ไม่ได้ต่อท้ายด้วย Donut มาหลายปีแล้ว
การรีแบรนด์ ครั้งนี้ เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2019 ด้วยเหตุผลว่า Dunkin’ อยากมีศักยภาพในการแข่งขันกับ Starbucks จึงมองว่าการเป็นร้านโดนัทเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ จึงตัดคำว่า Donut ออก เพื่อบอกว่าแบรนด์ไม่ได้ขายหรือโฟกัสแค่ผลิตภัณฑ์กลุ่มโดนัท แต่ยังให้ความสำคัญกับของกินอื่น ๆ อย่างพวกแซนวิช ขนมอบ รวมถึงเครื่องดื่มด้วย
โดย Rebranding ของ Dunkin’ เป็นไปในทิศทางเดียวกับ Starbucks ในปี 2011 ซึ่งต้องการสื่อแบรนด์ขายมากกว่ากาแฟ จึงตัดคำว่า Coffee ออกจากชื่อแบรนด์ และปรับดีไซน์ของแบรนด์ด้วยการเอากรอบที่เขียนว่า “Starbucks Coffee” ออก
![การรีแบรนด์ lego](https://thetepco.com/wp-content/uploads/2023/10/logo-ของ-lego.svg_-1024x1024.png)
2. Lego
Lego แบรนด์ตัวต่อสัญชาติเดนมาร์กที่ทุกคนรู้จักดี เคยลงทุนทำธุรกิจเสื้อผ้า สวนสนุก เครื่องประดับ วิดีโอเกม และล้มเหลวไม่เป็นท่า
สำหรับวิธีแก้ปัญหาของผู้บริหารในเวลานั้น คือการขายสวนสนุกทิ้ง แล้วปรับภาพลักษณ์ของ Lego ให้กลับเป็นบริษัทของเล่นเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ แบรนด์ยังเลือกทำธุรกิจโดยโฟกัสเพียงกลุ่มลูกค้าหลักของแบรนด์ ซึ่งก็คือเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ที่ชอบ Lego
ด้วยแนวทางนี้ Lego ซึ่งขาดทุนมากมายจากธุรกิจที่ล้มเหลว ก็มีกำไรมากขึ้นเป็น 4 เท่า ระหว่างปี 2008-2010 และกลายเป็นแบรนด์ของเล่นที่ยังคงขายดีมาจนปัจจุบัน
![การรีแบรนด์ ศรีจันทร์](https://thetepco.com/wp-content/uploads/2023/10/logo-ของ-srichand.webp)
3.ศรีจันทร์
ศรีจันทร์ เป็นแบรนด์เครื่องสำอางไทยซึ่งดำเนินธุรกิจมานานกว่า 60 ปีแล้ว
ในปี 2557 ได้มี การรีแบรนด์ ศรีจันทร์ ครั้งใหญ่ โดยปรับองค์ประกอบต่าง ๆ ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นโลโก้หรือบรรจุภัณฑ์ของสินค้า เพื่อให้แบรนด์ดูทันสมัย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ โดยเฉพาะสุภาพสตรีได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ศรีจันทร์ ยังเปลี่ยนสโลแกนใหม่เป็น “สวย มั่นใจ ในทุกมุม” เพื่อสื่อถึงคุณค่าของแบรนด์ ที่ต้องการช่วยให้ผู้หญิงทุกคนสวยและมั่นใจในตัวเอง
โดย การรีแบรนด์ ของศรีจันทร์ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำให้ในปี 2558 แบรนด์มีรายได้แตะ 300 ล้านบาท จากที่ก่อนหน้ามีรายได้ต่อปีประมาณ 200 ล้านบาทเท่านั้น
อ่านมาถึงตรงนี้ ทุกคนคงพอเข้าใจแล้วว่า Rebranding คืออะไร สำคัญแค่ไหน ทำไมแบรนด์ใหญ่ ๆ ถึงต้องทำอย่างเลี่ยงไม่ได้
และถ้าคุณอยาก สร้างแบรนด์ (Branding) ของตัวเอง สนใจเรื่อง Brand และ Branding หรืออยากทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก ก็สามารถใช้บริการ THE TEPCO ได้ โดยเราเป็นเอเจนซี่การตลาดครบวงจร ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องการสร้างแบรนด์ รวมถึงการทำตลาดผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และมีรายได้ที่สูงขึ้น