หลังจาก Elon musk จำกัดการมองเห็นทวิต จนเกิดเป็น เทรนด์ทวิตเตอร์ เมื่อสัปดาห์ก่อน Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ก็เปิดตัว เทรดส์ อย่างเป็นทางการในวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดย Threads คือ แอปที่คล้ายกับ Twitter แต่มีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกัน
Meta อธิบายว่าหาก “Instagram เป็นที่ ๆ คนกว่าพันล้านคนทั่วโลกเชื่อมโยงถึงกันด้วยภาพและวีดีโอ” เทรดส์ ก็ทำงานได้เหมือน อินสตาแกรม แถมแชร์ข้อความต่าง ๆ ได้ด้วย
ผู้ใช้งานล้นหลาม
แม้จะเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่ Threads ก็มีผู้ใช้งานมหาศาล Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ Meta ระบุว่า เทรดส์ มีผู้ใช้งานถึง 10 ล้านคน ตั้งแต่แอปเปิดให้เล่นได้เพียง 7 ชั่วโมง
ที่คนสนใจแอปใหม่ขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยว่าเป็นผลมาจากการ ” จำกัดการมองเห็นทวีต ” ของ ทวิตเตอร์
ก่อนหน้านี้ Elon Musk ประกาศจำกัดการมองเห็นทวีตของผู้ใช้ เพื่อป้องกันการดึงข้อมูลสำคัญ ๆ จากทวิตเตอร์ ไปใช้ในทางไม่ถูกต้อง
การตัดสินใจนี้ของ Musk สร้างความไม่พอใจต่อ ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ หลาย ๆ คน และผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งประกาศว่าจะหนีไปใช้งานโซเชียลมีเดียทางเลือกอื่น ๆ โดยเทรดส์เป็นหนึ่งในนั้น
Threads ทำงานยังไง?
หนึ่งในคำถามที่หลายคนอยากรู้ คือ การเข้าใช้งานของ เทรดส์ ซึ่งแอปนี้ต้อง Login ผ่านอินสตาแกรม และการแก้ไข Profile ต้องทำผ่าน Instagram เท่านั้น
สำหรับ หน้าฟีดของเทรดส์ จะอิงจากความสนใจของผู้ใช้งาน ไม่ใช่คนที่พวกเขากดติดตามอยู่
ส่วนแง่ความยาก-ง่ายของการใช้งาน จะเรียกว่า Meta ดึงของ Twitter มาเลยก็ได้ ทำให้ผู้ที่เคยใช้ทวิตเตอร์ มาก่อนปรับตัวได้ไม่ยาก แถมเมื่อเขียนผิดแล้วเทรดส์ยังแก้ไขไม่ได้ (ต้องลบข้อความเท่านั้น) เหมือนกับทวิตเตอร์
อย่างไรก็ตาม Threads ก็มีส่วนที่แตกต่างไม่เหมือน Twitter ด้วย เช่น
- หน้าฟีดของเทรดส์ เรียกว่า Thread ส่วนของทวิตเตอร์ เรียกว่า Tweet
- การ Repost ข้อความในเทรดส์เรียกว่า Repost แต่ของทวิตเตอร์ เรียกว่า Retweet
- เทรดส์รองรับข้อความที่มากถึง 500 ตัวอักษร (ทวิตเตอร์ แค่ 280 ตัวอักษร)
- เทรดส์รองรับวิดีโอที่ยาวถึง 5 นาที (ทวิตเตอร์ แค่ 45 วินาที)
- เทรดส์ยังไม่มีระบบ Hashtag เมื่อกดตรงไอคอนแว่นขยายแล้วจึงไม่เจอเทรดส์ใหม่ ๆ แบบทวิตเตอร์
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าผู้ใช้งานบางรายโดนแบนตั้งแต่ใช้งานวันแรก เนื่องจาก “ลอง” โพสต์เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม หรือ เนื้อหา 18+ ทำให้เห็นว่าแอปใหม่ของทาง Meta มีกติกาการใช้งานที่เข้มงวดกว่า ทวิตเตอร์ อย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ ยังคงเป็นเรื่องน่าคิดว่าทาง Meta จะพัฒนาแอปใหม่นี้ไปในทิศทางไหน เพื่อดึงผู้ใช้งานให้อยู่กับเทรดส์นาน ๆ และกลายเป็นคู่แข่งของ ทวิตเตอร์ อย่างแท้จริง