ไม่นานมานี้ Youtube ได้ประกาศว่าจะเอาฟีเจอร์ Youtube Stories ออกจากแอปพลิเคชัน ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2023 เป็นต้นไป
สำหรับเหตุผลนั้น ยูทูปอธิบายว่า เพราะสตอรี่ ( Stories ) มีผู้ใช้งานน้อย เมื่อเทียบกับฟีเจอร์อย่าง Community Posts ซึ่งเรียกยอดไลค์และคอมเมนต์ได้มากกว่า
นอกจากนี้ การตัดสินใจในครั้งนี้ของยูทูป ยังมาจากความเห็นของผู้ใช้และยูทูปเบอร์หลาย ๆ คน ที่มองฟีเจอร์ดังกล่าว “แปลก” ไม่มีฟังก์ชันใช้งานสำคัญ ๆ อย่างการปัดขึ้นปัดลง หรือการผูกลิงก์กับวิดีโอ
และเนื่องจากเราจะไม่ได้เห็นสตอรี่อีกต่อไปแล้ว เลยคิดว่าพูดถึงมันสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน
เรื่องราวของ Youtube Stories
Stories เป็นฟีเจอร์ Youtube ซึ่งเริ่มมีให้ใช้ตั้งแต่ปี 2017 โดยตอนแรกชื่อว่า Reels ก่อนเปลี่ยนเป็นสตอรี่ในภายหลัง
ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ยูทูปเบอร์แชร์ภาพเบื้องหลังวีดีโอ ตัวอย่างวิดีโอใหม่ รวมถึงอัปเดตข้อมูลแบบเร่งด่วน ทั้งนี้ ผู้ที่จะใช้สตอรี่ได้ต้องมีผู้ติดตาม 10,000 คนขึ้นไป
และเช่นเดียวกับสตอรี่ของ Instagram และ Snapchat สตอรี่ของยูทูปจะหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม สตอรี่ยูทูปไม่สามารถเซฟเป็น Highlights เหมือนของ Instagram ได้
Stories ต่างจาก Shorts ยังไง
Shorts เป็นฟีเจอร์วิดีโอสั้นของ Youtube ซึ่ง Launch ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อแข่งขันกับ TikTok
ฟีเจอร์นี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยสถิติในปี 2023 ระบุว่า Shorts มียอดวิวทั้งหมด 5 หมื่นล้านครั้ง/วัน
สำหรับข้อแตกต่างระหว่าง Stories และ Shorts มีดังนี้
- Stories มีความยาวสูงสุดที่ 15 วินาที ส่วนของ Shorts คือ 60 วินาที
- Stories จะหายไปเองหลังผ่านไปแล้ว 7 วันแต่ Shorts จะไม่หายไปหลังจากอัพโหลดสำเร็จแล้ว
- Stories ไม่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ให้กับยูทูปเบอร์ แต่ Shorts มี
- Stories ไม่สามารถเจอได้จากการเสิร์ช แต่ Shorts เจอได้
ไม่ใช่แค่ Youtube ที่ยกเลิก
ยูทูป ไม่ใช่แอปพลิเคชันแรกที่ยกเลิกสตอรี่
ก่อนหน้านี้ Netflix เคยทดสอบฟีเจอร์ลักษณะคล้ายสตอรี่ชื่อ “Extra” แต่ภายหลังเปลี่ยนไปพัฒนาฟีเจอร์วิดีโอขำขัน “Fast Laughs” และฟีเจอร์วิดีโอสำหรับเด็กแทน
ขณะเดียวกัน LinkedIn เองก็เคยคิดมีสตอรี่ของตัวเอง ก่อนจะทิ้งมันไปในปี 2021
ในวันที่ Youtube Stories หายไป
หลังจากวันที่ 26 มิถุนายน ยูทูปเบอร์จะไม่สามารถสร้าง Stories ได้อีกต่อไป ส่วน Storiesในระบบจะคงอยู่เป็นเวลา 7 วันแล้วหายไป
ขณะเดียวกัน ยูทูปมีแพลนจะให้ความสำคัญกับฟีเจอร์ที่มียอด Engagement สูงอย่าง Community Posts และ Shorts มากขึ้น
นอกจากนี้ ยูทูปยังสัญญาว่าจะพัฒนาเครื่องมือใหม่ ๆ ที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตของเหล่า Youtuber ด้วย