3 เหตุผลที่ Barbie ยังเป็นที่รักของทุกคน

บาร์บี้ (Barbie)

เลือกอ่านตามหัวข้อ

“รู้มั้ยว่า ปัจจุบัน Barbie มีอายุถึง 64 ปีแล้วนะ?”

และแม้จะเป็นแบรนด์เก่า แต่ ตุ๊กตาBarbie ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งแฟน ๆ และเด็ก ๆ สังเกตได้จากตุ๊กตาและของเล่น-ของใช้ต่าง ๆ เกี่ยวกับบาร์บี้ที่มีออกใหม่อยู่เรื่อย ๆ

ทั้งนี้ Mattle บริษัทของเล่นเจ้าของแบรนด์ Barbie มียอดขายสินค้าโดยรวมสูงถึง 1,490.6 ล้านดอลลาร์ (หรือราว ๆ 51977.22 ล้านบาท) ในปี 2022

ถ้าใครสงสัยว่า ทำไมบาร์บี้ ยังคงขายออกท่ามกลางของเล่นใหม่ ๆ รวมถึงสื่อบันเทิงมากมาย บทความนี้จะเล่าให้ฟังแบบเต็มอิ่ม

ตุ๊กตาBarbie

รู้จัก Barbie กันก่อน

เราทุกคนคงรู้จักกับ Barbie มาก่อน บางคนเคยเล่นตุ๊กตา แถมยังอาจเคยมีของใช้ลายบาร์บี้ด้วย…แต่เอ๊ะ สงสัยมั้ยว่าบาร์บี้ มาจากไหน? ใครเป็นคนสร้าง? เอาล่ะ ถ้าอยากรู้ เลื่อนอ่านย่อหน้าถัดไปได้เลย!

ต้นกำเนิดของ Barbie

ผู้ให้กำเนิดบาร์บี้ คือ Ruth Handler เจ้าของบริษัทของเล่น  Mattel ซึ่งนอกจากบาร์บี้แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ยอดฮิตอีกมากมาย อย่างไพ่ UNO, รถ Hotwheels และรถไฟ Thomas & Friends

Handler คิดค้น ตุ๊กตาBarbie ขึ้นมา เนื่องจากเล็งเห็นว่า ตอนนั้นไม่มีตุ๊กตาที่เหมือนผู้หญิงที่โตแล้วให้เด็กผู้หญิงเล่น และลูกของ Handler เองก็อยากเล่นของเล่นที่ชวนให้จินตนาการถึงอาชีพหรือชีวิตในอนาคต

ความสำเร็จของBarbie

หลายคนอาจคิดว่า หลังบาร์บี้วางขายในปี 1959 มันจะดังเป็นพลุแตกและสร้างรายได้ให้ Mattle เป็นกอบเป็นกำ แต่ความจริงไม่ง่ายขนาดนั้น โดยบาร์บี้ถูกเมินจากผู้เดินงาน Toy Fair ในปีดังกล่าว และความสำเร็จของบาร์บี้ ก็เริ่มต้นจากการโปรโมตตุ๊กตาในชุดแต่งงาน โดยการแต่งงานเป็นเรื่องที่ผู้หญิงยุคนั้นคาดหวัง และการที่ลูกสาวไม่ได้แต่งงาน ก็เป็นเรื่องที่แม่ ๆ ต่างเป็นกังวล

ยังไม่พอ Handler ได้เลือกโปรโมตบาร์บี้ กับเด็ก ๆ โดยตรง ด้วยการโฆษณาบาร์บี้ทาง TV และผ่านกล้องของเล่นที่เรียกว่า “View-Master Toys” ซึ่งภายในบรรจุรูปบาร์บี้เอาไว้

บาร์บี้

ทำไม Barbie ถึงเป็นที่รักของหลายคนมาจนถึงทุกวันนี้

ท่ามกลางสินค้าใหม่ ๆ ในท้องตลาด ตุ๊กตาBarbie ยังคงขายได้อยู่ และถ้าใครสงสัยว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น เราขออธิบายเป็น 3 ข้อ ตามนี้

1. Storytelling

Mattel บริษัทผู้ผลิต บาร์บี้ คอยสร้างเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมาทำให้สินค้าหรือแบรนด์ดูน่าสนใจอยู่เสมอ 

ในปี 1961 Mattel วางขายตุ๊กตาผู้ชาย โดยตั้งชื่อว่า Ken พร้อมทั้งมี Story ว่าเป็นแฟนของบาร์บี้ และต่อมา ในปี 2004 Mattel ก็ให้ Ken กับ Barbie เลิกกันในวันวาเลนไทน์

นอกจากนั้น Mattel ยังได้ออกตุ๊กตาอีกหลายตัว โดยมี Story เกี่ยวข้องกับบาร์บี้ อย่างเช่น Skipper ซึ่งเป็นน้องสาวของบาร์บี้ หรือ George พ่อของบาร์บี้

2. ปรับตัวตามยุคสมัย 

บางครั้ง Mattle จะออกแบบสินค้าใหม่โดยอิงจากกระแสสังคมและยุคสมัย เช่น ในปี 2016 Mattle ได้วางขาย Project Dawn หรือ ตุ๊กตาBarbie ตัวสูง ตัวเตี้ย และผมหยิก เพื่อตอบสนองต่อกระแสความหลากหลายทางรูปลักษณ์ของผู้คนในสังคม

และต่อมาในปี 2017 Mattle ยังได้วางขาย ตุ๊กตาBarbie สวมฮิญาบอีกด้วย

3. การมองหากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ

Mattel ไม่หยุดแค่การขายตุ๊กตาให้เด็ก ๆ และมองหาลูกค้ากลุ่มใหม่อยู่เสมอ โดยหลาย ๆ ครั้ง บริษัทเลือกขยายฐานลูกค้าด้วยการขายสินค้าที่นอกเหนือจากตุ๊กตาอย่างเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอางค์ หรือแม้กระทั่งวีดีโอเกมและภาพยนตร์ ซึ่งทำให้ แบรนด์ บาร์บี้ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนไปในที่สุด

ตุ๊กตาBarbie

เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับบาร์บี้

นอกจาก กลยุทธ์การตลาด ที่ช่วยให้ขายดีแล้ว บาร์บี้ยังมีเรื่องเล่าน่าสนใจอีกมากมาย เช่น

1. ที่มาของชื่อ Barbie

ชื่อเต็มของ ตุ๊กตาBarbie คือ Barbara Millicent Roberts โดยชื่อ Barbara มาจากชื่อของ Barbara Handler ลูกสาวของ Handler เอง 

ส่วนตุ๊กตา Ken ก็มีชื่อเต็มว่า Kenneth Sean Carson และตุ๊กตาผู้ชายนี้ก็ตั้งชื่อตาม Kenneth Handler ลูกชายของ Handler

2. โลโก้ที่ใคร ๆ ก็จำได้

โลโก้ Barbie ที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน เป็นโลโก้แบบดั้งเดิมที่สุด โดยเริ่มใช้ครั้งแรกตั้งแต่ปี 1959 ก่อนจะมีการปรับเปลี่ยนอีก 5 ครั้ง และถูกนำกลับมาใช้ใหม่อีกหนในปี 2009 จนถึงปัจจุบัน

โลโก้ของบาร์บี้ จัดเป็นตัวอย่างของโลโก้ซึ่งผ่านการคิดมาเป็นอย่างดี โดยโลโก้ดังกล่าวทั้งเรียบง่ายและไม่เหมือนใครในช่วงเวลาที่เริ่มใช้ จึงจดจำได้ไม่ยากตั้งแต่แรกเห็น

และการออกแบบฟอนต์อักษรให้คล้ายลายมือของเด็ก ยังสะท้อนถึงความไร้เดียงสาและความสดใส อันเปรียบเสมือนจิตวิญญาณของแบรนด์ด้วย

3. สีชมพูที่ใครก็ใช้ไม่ได้

สีชมพูบาร์บี้ เป็นสีเฉพาะของแบรนด์ ซึ่งทาง Mattel เลือกใช้เพื่อให้เข้ากับกลุ่มลูกค้าหลักของบาร์บี้ ซึ่งก็คือเด็กผู้หญิง

โดย Mattle เคยฟ้องร้องบริษัทและศิลปินจำนวนมากที่เอา สีชมพูบาร์บี้ ไปใช้โดยไม่ขออนุญาต และบางครั้งก็ไม่ชนะ

ความสำเร็จของบาร์บี้ไม่ได้มาจากโชค แต่เป็นความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถทางการทำตลาด และความเก๋าในการปรับตัว ชนิดที่ทำให้แบรนด์อายุ 64 ไม่ดูเก่าหรือตกยุคเลยแม้แต่น้อย

และล่าสุด แบรนด์ก็ก้าวไปอีกขั้นด้วยการมีหนังคนแสดงเป็นของตัวเอง ซึ่งกำกับโดยผู้กำกับสายรางวัลอย่าง Greta Gerwig และคับคั่งด้วยนักแสดงดังมากมาย

โดยหนังเรื่องนี้ ทำรายได้ทั่วโลกถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ กลายเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของแบรนด์บาร์บี้ ในเรื่องการทำตลาดผ่านลูกค้ากลุ่มใหม่ ซึ่งก็คือแฟนหนังทั่วไปที่ไม่ใช่แฟนตุ๊กตาบาร์บี้นั่นเอง

บาร์บี้
บทความอื่น ๆ
DA ย่อมาจาก Domain Authority เป็น ตัวเลขที่บอกว่าเว็บเรามี ค่าความน่าเชื่อถือของโดเมน มากน้อยแค่ไหน
Ahrefs โปรแกรมทำ SEO สุดฮิต มี AI เขียนบทความ SEO ได้ด้วย
รู้รึเปล่า? การกิน ป๊อปคอร์น ทำให้เราจำชื่อแบรนด์ใหม่ ๆ ได้ยากขึ้น
การตลาดออนไลน์ Digital marketing Thetepco

หากสนใจ
บริการของเรา

การตลาดออนไลน์ เวลาทำการ

เวลาทำการ

จันทร์ – ศุกร์

10:00 น. – 19:00 น.

Copyright © 2023 THE TEPCO Co.,Ltd. All Rights Reserved.

Scroll to Top

ให้ เดอะเท็ปโค่ พาคุณไปสู่เป้าหมายทางธุรกิจ

เราจะทำการตอบกลับให้เร็วที่สุด